ความรู้เรื่องกรวดและหินแต่งสวน

 ความรู้เรื่องกรวดและหินแต่งสวน

หินมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

  1. หินอัคนี หินอัคนีมีหลายชนิด คือ หินแกรนิต หินบะซอลต์ หินพัมมิซ หินออบซิเดียน
  2. หินชั้นหรือหินตะกอน มีลักษณะเป็นตะกอนหรือเป็นชั้นๆ เช่น หินทราย หินกรวด หินปูน หินดินดาน
  3. หินแปร มีหลายชนิด คือ หินชนวน หินอ่อน หินไนส์

<strongstyle=”color:#506d38;”>หิน คือ มวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ เนื่องจากองค์ประกอบของเปลือกโลกส่วนใหญ่เป็นสารประกอบซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) ดังนั้นเปลือกโลกส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูล ซิลิเกต นอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนต เนื่องจากบรรยากาศโลกในอดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้นดินและมหาสมุทร สิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกาย แพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้างเปลือก เมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน หินส่วนใหญ่บนเปลือกโลกจึงประกอบด้วยแร่ต่างๆ

หินที่นิยมนำมาจัดสวน

1. หินกาบ
เหมาะสำหรับงานตกแต่งผนังและพื้นทางเดินสไตล์ธรรมชาติ เพราะดูแลรักษาง่าย ดูดซึมน้ำน้อย เนื้อแกร่งแข็งแรงทนทาน

2. หินภูเขา
นิยมเอามาทำกำแพง ตกแต่งสวน เพราะมีความแข็งแรงมากทนทานต่อสภาพอากาศ ทนแดดทนฝน ไม่อมความชื้นจึงไม่เป็นเชื้อรา หรือกระเทาะแตกหักง่าย

3. หินฟองน้ำ
นิยมใช้ในการตกแต่งสวนแนวธรรมชาติ ใช้ประกอบกับสวนที่มีน้ำตกวางประดับคู่กับต้นไม้ตระกูลเฟิร์น หินฟองน้ำมีลักษณะเป็นรูพรุน น้ำหนักเบา สามารถสะสมน้ำและแร่ธาตุไว้ได้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของมอสได้ดี ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

4.หินชั้น
หินชั้นนิยมนำไปจัดสวนที่ตกแต่งเป็นน้ำตก ลำธาร หรือนำไปตกแต่งตู้ปลาเพื่อสร้างความเป็นธรรมชาติให้สมจริง

5. หินเกล็ด
เหมาะสำหรับงานปูพื้นทางเดิน งานปูพื้นสำหรับทำสวนหย่อม ตัวหินไม่แตกเสียหายง่าย ไม่บาดเท้าและมีผิวที่ค่อนข้างสวยงาม ทำให้ดูสะอาดตา

6. หินขัด
หินขัด จะมีความแข็งแรง ทนทานมาก ดูแลรักษาง่าย อีกทั้งยังใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นพื้น หรือเคาน์เตอร์ นอกจากนี้ยังมีสไตล์การออกแบบ ที่ยืดหยุ่นได้ตามความต้องการ สามารถสร้างลวดลายสีสันได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชนิดของหิน ขนาดของหิน และสีที่ผสมลงไป

7. ทรายล้าง
มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ผิวสัมผัสที่หยาบ ป้องกันการลื่นได้ดี สามารถสร้างสรรค์ลวดลาย และสีสันให้ดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ไม่จำกัด นำมาผสมกับปูนซีเมนต์ขาว แล้วนำมาปูพื้น หรือฉาบผนัง และทำการล้างคราบซีเมนต์ออก เพื่อเผยให้เห็นผิวสัมผัสของหินธรรมชาติ

หินกรวด

เป็นหินประเภทหินตะกอนที่ถูกกระแสน้ำพัดไปอยู่ด้วยกัน และการเสียดสีระหว่างสายน้ำและตัวหินนั้นทำให้ผิวของหิน มีความเรียบและมน มีลักษณะลื่นกว่าหินตะกอนประเภทอื่น ๆ หินกรวดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือกรวดแม่น้ำ และกรวดทะเล การใช้กรวดโรยตามพื้นทางเดินในสวนช่วยบดบังพื้นผิว ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าการพื้นปูน หรือจะโรยหินกรวดไว้ในบริเวณร่มที่ไม่สามารถปูหญ้าได้
หินกรวดที่ใช้ประดับในการจัดสวนนั้นมีด้วยกันหลายชนิด และรูปทรงของกรวดแต่ละประเภท ใช้งานในสวนได้ต่างกัน

  • กรวดเม็ดใหญ่ ไม่เหมาะกับการโรยทางเดินในสวนโดยตรง เพราะทำให้เดินลำบาก และอาจเป็นอันตรายได้
  • กรวดเม็ดเล็ก เหมาะสำหรับโรยแทรกรอยต่อระหว่างแผ่นทางเดิน ส่วนหินเกล็ดและหินแกลบเหมาะโรยพื้นทางเดิน เพราะเม็ดกรวดมีขนาดค่อยข้างเล็กละเอียด เมื่อเดินแล้วให้ความรู้สึกนุ่มเท้ากว่า

สีของกรวด

สีของกรวดไม่มีการกำหนดเรื่องสีกรวดตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับความชอบและดีไซน์ของผู้จัด ส่วนใหญ่แล้วมักใช้ 1 สีต่อพื้นที่ เช่น พื้นที่แปลงปลูกต้นไม้ 1 แปลงโรยกรวดหรือแกลบแม่น้ำโขงปิดผิวหน้าดินแค่ชนิดเดียว สำหรับใครที่ชอบสีสันที่ดูตัดกันอาจใช้กรวดแม่น้ำสีเข้มไซส์ใหญ่กว่ามาตัดขอบ ให้ดูมีรายละเอียดมากขึ้นก็ได้
ข้อควรพึงระวังของการใช้กรวดหลายชนิด คือ อย่าใช้มากกว่า 3 ชนิด และอย่าเลือกสีสว่างมาใช้ทั้งหมด ควรมีสีอ่อนเข้ม สลับกันบ้าง การเลือกใช้กรวดสีเข้มอย่างเช่น กรวดบาหลีหรือ กรวดแม่น้ำสีดำ ก็ช่วยให้สวนดูแปลกตาขึ้นได้

ขนาดของกรวด

ขนาดของกรวดที่จะใช้ควรดูจากขนาดพื้นที่ก่อน ตัวอย่างเช่น อยากปูกรวดแทรกตามแผ่นทางเดินในพื้นที่แคบด้านข้างบ้านขนาดกว้าง 0.80 เมตร ยาว 4 เมตร ลักษณะพื้นที่ดังกล่าวมีความแคบและยาว ฉะนั้นหากเลือกใช้กรวดแม่น้ำก็ไม่ควรเกิน 3-4 เซนติเมตร เนื่องจากถ้าใหญ่กว่านี้จะไม่สวยทำให้พื้นที่ดูอึดอัด การใช้หินกรวดขนาด 5 เซนติเมตร ขึ้นไป ควรใช้ในพื้นที่กว้าง เช่น ขอบบ่อน้ำ ริมลำธาร และที่สำคัญไม่ควรใช้ขนาดเดียว ควรคละไซส์เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

TIPS: วิธีง่าย ๆ ในการคำนวณว่าเรา “ต้องซื้อหินกรวดเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอ”
  • กรวดแม่น้ำเบอร์ 1 – 5 ใช้ตารางเมตรละ 10ถุง (ถุงละประมาณ 7-7.5 กิโลกรัม) โดยเทหนาประมาณ 5 เซนติเมตร
  • กรวดแกลบเบอร์เล็ก ใช้ตารางเมตรละ 2 – 3 ถุง (ถุงละประมาณ 22-24 กิโลกรัม) โดยเทหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร
  • กรวดบาหลี กรวดหิมะ ใช้ตารางเมตรละ 7ถุง (ถุงละประมาณ 10 กิโลกรัม) โดยเทหนาประมาณ 5 เซนติเมตร

การนำกรวดไปใช้

การเลือกใช้กรวดให้เหมาะกับสวนหรือพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ต้องพิจารณาขนาดพื้นที่สไตล์สวน รวมไปถึงธีมของสีที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่ตอนออกแบบ การโรยกรวดมักใช้ในพื้นที่ที่ไม่สามารถปลูกหญ้า หรือไม้คลุมดินลงไปได้ อาทิเช่น พื้นที่แสงน้อยบริเวณหลังบ้าน บริเวณข้างบ้านที่โดนเงาของตัวบ้านบัง หรือจะเป็นพื้นที่บนส่วนระเบียงดาดฟ้า การโรยกรวดจะช่วยให้พื้นที่คอนกรีตดูเป็นสวนมากขึ้น ข้อดีของการใช้กรวดแทนการปลูกหญ้าคือ ช่วยลดปัญหาในการดูแลรักษา น้ำท่วมขังก็ไม่มีปัญหา กรวดยังมีประโยชน์ต่อพืชและดิน เพราะเป็นตัวเก็บความชื้นได้ดี และยังไม่ทำให้น้ำชะล้างหน้าดินออกไปจนหมดด้วย